รีวิว : KTM 790Duke ค่ายอินดี้ ที่ทำรถได้บ้าคลั่ง
22 มีนาคม 2021
Jor-Jair (86 articles)
Share

รีวิว : KTM 790Duke ค่ายอินดี้ ที่ทำรถได้บ้าคลั่ง

Loading

หลายคนน่าจะรู้จัก KTM แบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติออสเตรียที่มีสีประจำแบรนด์คือสีส้ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นของแบรนด์เลยก็ว่าได้ อีกทั้งแนวคิดการสร้างรถจักรยานยนต์ก็ชัดเจนเป็นอย่างมาก ด้วยสโลแกนประจำแบรนด์ Ready To Race พูดง่ายๆว่า ฉันผลิตรถแข่ง เมื่อคุณซื้รถฉันไป คุณสามารรถเอาไปลงสนามแข่งได้ทันที


KTM

ในส่วนของรถที่แอ๊ดได้มารีวิวในบทความนี้ ก็คงหนีไม่พ้นรถรุ่นใหม่จาก KTM ที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยหมาดๆ กับซีรียส์ Duke พิกัด 799cc หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Duke790

แน่นอนว่า Duke790 หรือชื่อที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า 790Duke (จริงๆก้ไม่ได้ซีเรียสในการเรียกเท่าไหร่) ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ 8 วาวล์ 799 ซีซี สามารถเรียกแรงม้าได้ถึง 105 ตัว และมีแรงบิดอยู่ที่ 87 นิวตันเมตร น้ำหนักตัวโดยรวมอยู่ที่ 169 กิโลกรัม ซึ่งถือว่า เบามากๆ

สารบัญ

ไฟหน้า

ไฟหน้าที่ให้มานั้น KTM เลือกใช้หลอด LED โดยแบ่งไฟหน้าเป็น 2 ฝั่งซ้ายและขวา ในแต่ละฝั่งแบ่งเป็น 3 แถว โดยเริ่มจากแถวบนสุด คือไฟต่ำ แถวกลางคือไฟสูง และแถวล่างสุดเป็น Daylight ซึ่งจะเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ ตามช่วงเวลากลางวันกลางคือ สลับกับไฟส่องสว่างปกติ พูดง่ายๆก็คือ กลางวัน ไฟปกติไม่ติด ติดแต่ไป Daylight พอตกดึก ไฟ Daylight ปิด ไฟหน้าปกติก็เปิด

ซึ่งแอ๊ดก็ได้ลองใช้งานแล้วทั้งไฟต่ำปกติ และไฟสูง บอกเลยว่า สว่างมาก เห็นชัดและส่งได้ไกลมาก เอาเป็นว่า วิสัยทัศน์ดีสุดๆยามค่ำคือ

ไฟท้าย หรือ ไฟเบรค แยกออกจากตัวรถอย่างชัดเจน สว่าง เด่นชัด ทั้งกลางวันกลางคืน จุดประสงค์จริงๆ ของการมีไฟท้ายแยกออกจากตัวรถแบบนี้ คือ การทำตามนโยบาย Ready To Race

ซึ่งใครก็ตามที่ซื้อ Duke790 ไป เพื่อนำไปขับขี่ในสนามแข่ง ก็สามารถถอดไฟท้ายออกทั้งท่อนได้เลย เพื่อความ Sport มากขึ้น

ไฟเลี้ยวที่ให้ เป็นไฟ LED เรียงแถว 3 ดวง ซึ่งไฟเลี้ยวรูปทรงนี้ ใช้ร่วมกันได้กับทุกรุ่น ตั้งแต่ Duke200 จนไปถึงรุ่นพี่อย่าง 1290 Super Duke กันเลยทีเดียว (จริงๆใช้ได้ด้วยกันทุกรุ่นของ KTM ที่มีจำหน่ายในปัจจุบันเลยแหละ)

DASHBOARD

Dashboard หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่าเรือนไมล์ หรือจอแสดงผล ทาง KTM ก็ให้เป็นจอสีแบบ TFT แบบเดียวกับที่ติดตั้งใน Duke390

โดยรูปแบบการแสดงผลนั้น เข้าใจได้ไม่ยาก มุมซ้ายบน บอกตำแหน่งเกียร์ที่ใช้ ณ ปัจจุบัน มีวัดรอบเครื่องยนต์ ฝั่งขวาก็จะมีตัวเลขบอกความเร็ว ระดับน้ำมันเชื้อเพลงและความร้อนเครื่องยนต์กองรวมกันอยู่ฝั่งนี้ แถบด้านล่างสุดก็จะเรียงกันตั้งแต่ เวลา อุณหภูมิขออากาศรอบตัว Trip1, Trip2 หรือ Total แล้วแต่ว่าจะเลือกปรับแต่งให้แสดงอันไหน และสุดท้ายเป็น RANGE ที่สามารถคำนวณระยะทางกับน้ำมันที่เหลือในถัง ซึ่งจะคำนวณไปถึงนิสัยการขี่ และแสดงผลออกมาเป็นตัวเลขแบบ Realtime ว่า น้ำมันที่อยู่ในถัง จะวิ่งได้ประมาณกี่กิโลเมตร

ในส่วนของเมนูการปรับแต่งก็สามารถกดเลือกใช้ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการควบคุมจากปุ่มประกับแฮนด์ด้านซ้ายมือ ซึ่งหน้าแรกของเมนูก็จะมีหัวข้อใหญ่ๆ เข้าใจง่ายๆ อยู่ 4 หัวข้อ แบ่งเป็น
Favorites คือ ข้อมูลต่างๆ ที่เราใช้บ่อยๆ
Trip/Data คือ ข้อมูลของระยะทาง Trip ต่างๆ
Ride Mode คือ โหมดการขับขี่
Motorcycle คือ ข้อมูลของรถเรา

หน้าตาของปุ่มบนประกับแฮนด์ฝั่งซ้าย ที่รอมไปถึงปุ่มไฟเลี้ยว และแตร โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ ปุ่มแต่ละปุ่ม มีไฟส่องสว่างได้ในยามค่ำคืน ดูสวยงามและดูแพงในเวลาเดียวกัน

โหมดการขับขี่

โหมดการขับขี่ มีให้เลือกใช้ 4 โหมดด้วยกัน แบ่งเป็น
Sport คือ โหมดการขับขี่แบบปล่อยแรงม้ามาเต็มที่ ขี่สนุก เปิดเป็นมา
Street คือ โหมดขับขี่บนท้องถนนทั่วไป ความพุ่งลดลง แต่เท่าที่ขี่ แทบไม่ต่าง
Rain คือ โหมดการขับขี่เมื่อถนนเปียก หรือฝนตก ซึ่งระบบจะปรับลดแรงม้า และระบบต่างๆจะทำงานแบบ Sensitive มากๆ เพื่อให้ตัวรถขับขี่ปลอดภัยที่สุด
Track คือ โหมดแบบเดียวกันกับ Sport แต่จะมีความต่างออกไป คือ สามารถปิดโหมดช่วยขับขี่ต่างๆได้ เช่น

Launch Control คือ โหมดออกตัวไม่ให้รถสะบัดหรือฟรีทิ้ง พูดง่ายๆว่า ระบบจะทำทุกอย่าง เพื่อให้การออกตัวของผู้ขับขี่ เป็นไปได้อย่างดีและสมูทที่สุด
Anti Wheelie คือ โหมดป้องกันการยกล้อ แอ๊ดพยายามลองแฮ็คมันแระ ออกตัวหนักๆ รอบสูงๆ ระบบมันตัดรอบทิ้งไปเลย ยิ่งเปิดคู่กับโหมด Launch Control ตอนออกตัว บอกเลยว่านึกว่าตัวเองเป็น Rossi ออกตัวแบบเทพๆเลยทีเดียวเชียว

โหมดเพิ่มเติม ที่ต้องเข้าในเมนู Motorcycle อย่างเช่น
MTC+MSR มาจาก Motorcycle Traction Control เป็นระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง ส่วน MSR มาจาก Motor Slip Regulation ทำงานควบคู่กับสลิปเปอร์ครัช เพื่อให้เกิดอาการล้อล็อคให้น้อยที่สุด ขณะลดเกียร์อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำงานได้ดีกับถนนที่มีลักษณะที่เปียก
ABS โหมด สามารถเปลี่ยนได้ 3 แบบ คือ Road ใช้งานทั่วไป ต่อมาเป็น Super Moto คือ ABS จะทำงานแต่ล้อหน้า ส่วนล้อหลังจะไม่ทำงาน เพื่อให้เราสามารถดริฟได้โดยไม่ต้องห่วงว่า ABS จะทำงาน สุดท้าย Close คือ ปิด ABS ไปเลยหน้าหลัง เหมาะมากกับคนที่ขี่ในโหมดขับขี่รูปแบบ Track
Quick Shift+ สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ หรือไม่ใช้
Shift Light คือ ไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ สามารถตั้งได้ว่า จะให้เตือนก่อนรอบตัดที่รอบเครื่องเท่าไหร่ แต่จะใช้งานในส่วนนี้ได้ ต้องเข้า Service 1,000 km ไปแล้ว

กลับมาที่ประกับสวิสท์ฝั่งซ้ายอีกครั้ง ด้านหลังสวิสท์จพะเป็นปุ่ม เปิดปิดไฟสูง วิธีการ คือ กด เพื่อเป็นไฟ PASS และหากดันออก ก็จะเปิดไฟสูงค้างไว้เลย

ประกับสวิสท์ ฝั่งขวา มีแค่ปุ่มเดียว มีไฟส่องส่างยามค่ำคืนเช่นเดียวกับประกับสวิสท์ฝั่งซ้าย ใช้งานง่ายๆ 3 สเต็ป คือ ดันขึ้น คือดับเครื่องยนต์ ดันมาระดับกลาง คือ เช็คหัวฉีด เตรียมพร้อมก่อนสตาร์ และสุดท้าย ดันลง คือการสตาร์ทเครื่อง

คันเร่งไฟฟ้า

คันเร่งไฟฟ้า มีข้อดี คือ ประกับคันเร่งของเราแทบจะไม่มีวันฝืดที่เกิดจากสายคันเร่งที่เป็นสลิงแบบรถปกติเท่าไป ทำงานร่วมกับกล่อง ECU และลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า ซึ่งผลลัพท์ที่ได้มา คือ โหมดการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ เช่น Launch Control, AntiWheelie รวมไปถึง Traction Control

ของดีอีก 1 ชิ้นที่ทาง KTM ให้มา คือกันสะบัดแบบ Manual auto จากแบรนด์ WP ทำงานได้ดีมากๆ การขับขี่ทั่วไปก็ปกติดี แต่เมื่อหักแฮนด์เร็วๆ ไม่ว่าจะข้างใดข้างหนึ่ง หรือหักไปมาอย่างรวดเร็ว จะรู้เลยว่า นี่คือของดีจริงๆ

ปั๊มเบรคหน้า เป็นปั๊มขนาดใหญ่ ซึ่งรองรับการใส่ปั๊มล่าง Brembo ได้เลย (เอาจริงๆ ปั๊มเดิมติดรถก็เบรคดีหัวทิ่มหัวตำกันมากๆแล้วละ)

เบรคหลัง หรือปั๊มกระทุ้งหลัง ก็ให้มาใหญ่เหมือนกัน รองรับ Brembo สบายๆ แต่ก็นั่นแหละ เดิมๆ เหลือๆ

ปั๊มเบรคที่ให้ ข้างหน้าจานคู่ เป็นแบบ Radial Mount ของ KTM เองเลย ข้างละ 4 Port ซึ่งถ้าหากเป็น Duke890 ก็จะให้เป็นปั๊ม Brembo มาเลยจากโรงงาน ส่วนปั๊มหลังให้เป็นปั๊มสไลด์ของ KTM เช่นกัน ขนาด 1 Port (ในคลิปบิดหมดถังบอกผิดว่าเป็น 2 Port)

สายน้ำมันเบรค ที่ให้มาก็เป็นสายถัง ตามสโลแกน Ready To Race รถจะแรงอย่างเดียวไม่ได้ เบรคก็ต้องทำงานได้อย่างมั่นใจด้วย

ปลายท่อไอเสียที่ให้มา ลอดสวิงอามขึ้นมาอยู่ใต้เบาะฝั่งขวา ถามว่าร้อนมั้ย แอ๊ดลองจับแผ่นกันความร้อนแระ เอาอยู่ อุ่นอ่อนๆ คนนั่งไม่ต้องกลัวร้อนแน่นอน หายห่วงได้

สเตอร์เดิมจากโรงงานที่ให้มา เป็นอัตราทด 16-42 บอกเลยว่า แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ต้นจัด ปลายเดิน สู้ลมได้สบายๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีชิวหน้าก็ตาม

Quick Ship+ เรียกว่า ควิก ชิพ พลัส ต่างจากเซ็นเซอร์ที่อยู่กับก้านเตะเกียร์ ซึ่ง Quick Ship+ ของ Duke790 วิธีใช้ คือ เตะเบาๆ ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้แล้ว ออกแนวกึ่งๆไฟฟ้านะ แต่ไม่ใช่เกียร์ไฟฟ้า

ระบบระบายความร้อน หมือน้ำ WP ขนาดใหญ่ ให้พัดลมระบายความร้อนมา 1 ตัว สามารรถระบายความร้อนได้ดี แนะนำว่า ให้ใส่กางเกงขายาวขี่ เพราะลมเป่าขาก็ร้ออยู่เหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ ถ้าไม่อยากเจอลมร้อนเป่าขา แนะนำให้ซื้อ Scooter ขี่จะดีกว่า

Oil-cooler หลายคนไม่รู้ ว่าไอกล่องเหลี่ยมๆ ดำๆ นี้คืออุปกรณ์ระบายความร้อนของน้ำมันเครื่อง ซึ่งเป็นระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งน้ำจากหม้อน้ำก็จะวิ่งข้ามายังจุดนี้เพื่อช่วยระบายความร้อนน้ำมันเครื่องด้วยเช่นกัน

ถังน้ำมัน ที่ให้มาขนาด 14 ลิตร ในสเปคของ KTM แจ้งไว้ว่า อัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 4.4 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งลองคำนวณดูแล้ว น้ำมัน 1 ถึง จะสามารถวิ่งได้ระยะทางอยู่ที่ 318 กิโลเมตร ซึ่งการขับขี่จริงจะได้กี่กิโลเมตร ลองติดตามได้จาก #บิดหมดถัง EP5 จากลิ้งค์ข้างล่างได้เลยครับ

กุญแจที่ให้มา เป็นกุญแจธรรมดา ไม่ได้เป็นกุญแจชิพแต่อย่างใด แต่หน้าตาแลดูดีอยู่พอสมควร ไม่ก๊องแก๊ง

การปรับตั้งครัช นอกจากการปรับตั้งสายครัชแล้ว ก็สามารถปรับก้านครัชตามความถนัดของแต่ละคนได้ หลักการก็จะคล้ายๆกับ ก้านเหรียญ แต่เปลี่ยนจากเหรียญขนาดใหญ่ มาเป็นเกลียวหมุนด้านข้าง ใครชอบปลายาั้น ปล่อยยาว ก็สามารถปรับได้จากตรงนี้เลย

เบาะคนขี่และคนซ้อน มีขนาดใหญ่ นั่งสบาย โดยเฉพาะเบาะของผู้ขับขี่ นั่งได้เต็มก้นมากๆ นิ่มพอดี ไม่แข็ง ไม่ย้วย

ใต้เบาะ สามารถเปิดได้ สำหรับถอดเปลี่ยนใส่ที่ครอบเบาะ เผื่อไว้ลงสนามแข่ง ส่วนใต้เบาะก็ใส่อะไรไม่ได้ เนื่องจากเป็นที่อยู่ของ Battery ระบบไฟและฟิวต่างๆ

ยางที่ให้ที่ให้มาเป็น Michelin Road5 ข้างหน้า ขนาด 120/70-17 และ ยางหลังขนาด 180/55-17 ส่วนตัวแล้ว ยางเดิมที่ให้มาก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปพอสมควรครับ หนึบใช้ได้ ถือว่าของที่ให้มาในรถ KTM Duke790 คันนี้ ให้ของดีมาเยอะมากๆครับ

ใครที่กำลังสนใจรถ KTM Duke790 อยู่ บอกเลยว่า ค่าตัวที่ให้มาก็น่าคบหาเช่นกัน เปิดตัวเพียง 399,800 บาทเท่านั้น ตารางผ่อน-ดาวน์ ตามข้างล่างนี้เลย (อัตราดอกเบี้ยตามข้างล่าง เป็นดอกประมาณการ ยังไงก็อัพเดทกับทางร้านตำวแทนจำหน่ายอีกที ส่วนตารางนี้ เป็นไกด์ไลน์คร่าวๆให้ครับ)

#บิดหมดถัง EP5
KTM DUKE790 น้ำมัน 1 ถัง วิ่งได้กี่โล

ขอขอบคุณ KTM ลาดพร้าว ที่เอื้อเฟื้อรถในการรีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ
สนใจรถ KTM ทดลองขับขี่ ติดต่อได้ที่
Tel : 02-123-3888

Tags duke, DUKE790, ktm
Jor-Jair

Jor-Jair

Web Director || Email : supradit@showmocyc.com || รถไม่ได้คุยกัน คนต่างหาก...ที่คุยกัน